เมื่อเวลา 18. 30 น. วันที่ 20 กค. 64 ที่ บ้านควนหินมุ้ย หมู่ที่ 12 ต. นาขา อ. หลังสวน จ. ชุมพร ร. ต. อ. ณภัทร ดวงสถิตย์ พนักงานสอบสวน สภ. บ้านในหูต อ. ชุมพร รับแจ้งเหตุรถไฟโดยสารชนรถยนต์เก๋ง ที่ ทางตัดรถไฟ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสา...
ข้อมูลที่จะถูกรายงานต่อกรมสรรพากร 1. เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขทะเบียนนิติบุคคลเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรหรือสิ่งอื่นที่ใช้ในการระบุตัวบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ 2. ชื่อและชื่อสกุลของบุคคลธรรมดา ชื่อของห้างหุ้นส่วนสามัญชื่อของคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือชื่อนิติบุคคล 3. จำนวนครั้งของการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน 4. จำนวนเงินที่ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน 5. เลขบัญชีทุกบัญชีที่มีการฝากหรือรับโอนเงิน 5. การรายงาน ผู้มีหน้าที่รายงานต้องจัดทำรายงานภายในเดือนมีนาคมของทุกปี โดยรายงานข้อมูลซึ่งอยู่ในความครอบครองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ในปีที่ล่วงมาแล้ว และให้มีการรายงานครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยรายงานข้อมูลเฉพาะธุรกรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24-31 ธันวาคม พ. ศ. 2562 สรุป กฎหมายฉบับนี้เพียงกำหนดให้ผู้มีหน้าที่ เช่น ธนาคาร ต้องส่งข้อมูลของบุคคลที่เข้าตามหลักเกณฑ์ให้แก่กรมสรรพากร ส่วนบุคคลทั่วไปแล้วควรต้องรู้ว่าตนเองอยู่ในเกณฑ์ของบุคคลผู้มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะที่จะถูกส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรหรือไม่ เพื่อเตรียมพร้อมและวางแผนในการจัดการเงินที่อยู่ในบัญชีธนาคารหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป และที่สำคัญหากปรากฏว่ามีรายได้ต่อปีเกิน 1.
ด่วน!! หลักเกณฑ์ที่ธนาคารต้องส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร สกาวบุญ คุณสุข บริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด ตามที่กรมสรรพากรมีมาตรการในการขยายฐานภาษี โดยการออกกฎหมายกำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีของบุคคลแก่กรมสรรพากรแล้วนั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 กรมสรรพากรได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 355 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการรายงานข้อมูล สรุปได้ดังนี้ 1. ลักษณะของธุรกรรม มี 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3, 000 ครั้งขึ้นไปต่อปี 2. การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้ง และมียอดรวมของธุรกรรมฝากหรือรับโอนเงินรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี 2. เกณฑ์การนับ นับจำนวนครั้งและจำนวนเงินทุกครั้งที่ได้มีการฝากหรือรับโอนผ่านบัญชีของบุคคลผู้เป็นเจ้าของบัญชี กรณีกระทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็นับเช่นเดียวกัน 3. ผู้ที่มีหน้าที่รายงาน 1. สถาบันการเงินของรัฐและเอกชน เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน เป็นต้น 2. ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Money ตามกฎหมายว่าด้วยระบบชำระเงิน เช่น TrueMoney Rabbit Line Pay เป็นต้น ตัวอย่าง: นาย A มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีของธนาคาร B 5 บัญชีมีการฝากและรับโอนผ่านบัญชีของนาย A ทั้ง 5 บัญชีรวมกัน (1) ตั้งแต่ 3, 000 ครั้งขึ้นไป หรือ (2) ตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไปและมียอดรวมในการฝากหรือรับโอนรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี ดังนั้น ธนาคาร B มีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลของนาย A ให้แก่กรมกสรรพากร 4.